30 September 24 ประชาชาติธุรกิจ by Kanokkan
แบรนด์วัสดุก่อสร้างสัญชาติไทย “จระเข้” ที่กำลังเฉลิมฉลองวาระครบรอบก่อตั้ง 32 ขวบปีในปี 2567
สำหรับแฟนคลับ จระเข้เป็นวัสดุก่อสร้างที่มีจุดเริ่มต้นจากกาวซีเมนต์ กาวยาแนว สร้างรากฐานจนแข็งแกร่งคลุกพื้นที่กว่า 600 อำเภอทั่วไทย วันนี้พร้อมแล้วที่จะเดินหน้าขยายพรมแดนการทำธุรกิจเข้าสู่เซ็กเมนต์สินค้าเคมีก่อสร้าง และผลิตภัณฑ์สีพรีเมี่ยม ดีกรีความมุ่งมั่นหากเปรียบเป็นรถยนต์ก็คงต้องบอกว่าเป็นการเดินหน้าแบบเหยียบมิดคันเร่งก็ว่าได้
เคล็ดลับความสำเร็จไม่มีอะไรซับซ้อน หากแต่บริษัทมีการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาเสริมคุณภาพและประสิทธิภาพการใช้งานของสินค้าอยู่เสมอ การพัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่งภายใต้เป้าหมายในการยกระดับวงการก่อสร้าง กำลังออกดอกออกผลเป็นเม็ดเงินรายได้ ที่มีเป้าหมายตัวเลขกลม ๆ ที่ 4,000 ล้านบาท …อยู่ใกล้แค่เอื้อม
“ตั้งต้น - ต่อยอด - เติบโต”
ประวัติศาสตร์หน้าแรกของแบรนด์จระเข้ ย้อนเวลากลับไปในปี 2535 กลุ่มเพื่อนพนักงานประจำ ฝันอยากคิดค้นผลิตภัณฑ์กาวซีเมนต์ปูกระเบื้องที่มีคุณภาพสูง ตอบโจทย์การใช้งานที่สะดวกสบายมากขึ้น นำมาสู่การร่วมทุนก่อตั้งบริษัท เซอรา ซี-เคียว จำกัด เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2535
และจากความตั้งใจที่จะแก้ Pain Point ของการปูกระเบื้องในวันนั้น ได้ถือกำเนิดเป็นผลิตภัณฑ์แรก “กาวซีเมนต์จระเข้เขียว” ในปี 2536 ใช้เทคโนโลยีจากสหรัฐอเมริกา และเป็นแบรนด์เรือธงที่ยังคงยืนหยัดในคุณภาพและได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้งานมาจนถึงทุกวันนี้ โดยนำมาใช้ในการปูกระเบื้องโดยเฉพาะ แทนการใช้ปูนซีเมนต์ผสม ถือเป็น Game Changer พลิกโฉมตลาด ยกระดับมาตรฐานคุณภาพงานปูกระเบื้องเมืองไทย
อย่างไรก็ตาม แบรนด์จระเข้ถือเป็นแบรนด์โนเนมในวงการวัสดุ ทำให้หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง “ศุภพงษ์ เพชรสุทธิ์” ประธานกรรมการบริหารของจระเข้ในปัจจุบัน ต้องขับรถไปทั่วไทยพบปะลูกค้ามากกว่า 600 อำเภอ แนะนำสินค้า สาธิตการใช้งาน ที่สำคัญ รับฟังความคิดเห็นจากผู้ใช้งานจริง เพื่อเก็บข้อมูลไปต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ แก้ Pain Point ใหม่ ๆ ของลูกค้า
รางวัลของความมุมานะพยายามทำให้ปี 2546 กาวซีเมนต์จระเข้ทำยอดขายแตะ 115 ล้านบาท เป็นครั้งแรก และในปีเดียวกันนี้ ก็เดินหน้าสร้างปรากฏการณ์ใหม่ด้วยการเปิดตัว “จระเข้ พรีเมียม พลัส” กาวยาแนวป้องกันราดำรายแรกของโลก ด้วยเทคโนโลยีไมโครแบน (Microban) แก้ Pain Point ป้องกันราดำในร่องยาแนว ปัญหาที่พบบ่อยในประเทศร้อนชื้นอย่างเมืองไทย แน่นอนว่าได้รับความนิยมอย่างล้นหลามจากผู้ใช้งาน
และกลายเป็นสปริงบอร์ดให้แบรนด์จระเข้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในฐานะผู้พลิกโฉมวงการก่อสร้างไทยด้วยนวัตกรรมระดับโลก จากรายได้หลักร้อยล้านบาท เส้นกราฟการเติบโตทะยานสู่หลักพันล้านบาทในปี 2557 ด้วยรายได้ 2,017 ล้านบาท
ปักหมุดกันอีกครั้งในปี 2560 จระเข้ได้กลายเป็นผู้ครองตลาดอันดับหนึ่งในกลุ่มกาวซีเมนต์และกาวยาแนว ครองส่วนแบ่งการตลาดเกิน 50% รวมทั้งยังคงครองเบอร์หนึ่งอย่างเสมอต้นเสมอปลายจนถึงปัจจุบัน
ขณะที่ในปี 2566 บริษัทสร้างรายได้มากถึง 3,707 ล้านบาท สอดคล้องกับการขยายไลน์อัพสินค้านวัตกรรมก่อสร้างที่หลากหลาย ครอบคลุมการใช้งานมากยิ่งขึ้นในทุก ๆ ปี
2567 สู่เส้นชัย 4 พันล้าน
ล่าสุดปี 2567 จระเข้ยังคงเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์และเสริมแกร่งกระบวนการผลิตในทุกขั้นตอน ภายใต้กฎเหล็กเทคโนโลยีที่ใช้ต้องมีมาตรฐานระดับโลก ส่งมอบผลิตภัณฑ์ครอบคลุมงานก่อสร้างตั้งแต่ฐานรากจนถึงหลังคา ทุกโปรดักต์ก่อเกิดจากนวัตกรรมที่ต้องตอบครบทุกโจทย์ ทั้งการใช้งาน ปลอดภัยต่อผู้อยู่อาศัย และใส่ใจสิ่งแวดล้อม ตามปรัชญาองค์กร “Innovation For Your Family’s Happiness-นวัตกรรมก่อสร้างความสุขเพื่อคุณและครอบครัว”
อาจกล่าวได้ว่าปีนี้บริษัทมีความพร้อมสุดขีด พร้อมทั้งแบรนด์ พร้อมทั้งนวัตกรรม พร้อมทั้งความไว้วางใจจากผู้ใช้จริง
หมุดไมล์ที่อยู่ใกล้แค่เอื้อมมือถึงในปี 2567 นี้ ในโอกาสวาระครบรอบ 32 ปี จระเข้จึงประกาศมุ่งสู่เป้ารายได้ 4,000 ล้านบาท พร้อมกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจด้วยกลยุทธ์ขยายไลน์เจาะตลาดเคมีก่อสร้างและผลิตภัณฑ์สีพรีเมี่ยม ซึ่งมีโอกาสในการลงทุนและมีพื้นที่ในการเติบโตได้อีกมาก
อัพเกรดโกลบอลแบรนด์
กลยุทธ์เดียวอาจไม่เพียงพอ จระเข้เสริมใยเหล็กแผนธุรกิจอีกขั้น ด้วยแผนลงทุนบุกตะลุยตลาดต่างประเทศ เพื่อนำเสนอนวัตกรรมก่อสร้างคุณภาพระดับมาตรฐานสากล มุ่งสู่การเป็นโกลบอลแบรนด์จากเมืองไทย
โดยจระเข้เซตอัพโครงข่ายจัดจำหน่ายสินค้าในตลาดประเทศเพื่อนบ้านที่กำลังเป็นดาวรุ่ง “CLMV” ประกอบด้วย กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม หลังจากทดลองตลาดมาสักพักใหญ่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เข็มทิศการทำธุรกิจชี้เป้าไปที่การขยายตลาดไปยังฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย เป็นสเต็ปต่อไป
“32 ปีที่ผ่านมา แบรนด์จระเข้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมก่อสร้าง ซ่อมแซม และตกแต่งครบวงจร มีฐานลูกค้ากระจายอยู่ในโครงการอสังหาฯ การท่องเที่ยว โรงงานอุตสาหกรรม และโปรเจ็กต์โครงสร้างพื้นฐานของรัฐ ผมทราบดีว่าการเป็นแชมป์นั้นยาก แต่รักษาแชมป์ยากกว่า เป้าหมายจากนี้คือการรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดกาวซีเมนต์และกาวยาแนวในเมืองไทย ควบคู่เพิ่มมาร์เก็ตแชร์ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เคมีก่อสร้างและสีพรีเมี่ยม หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญคือการสานต่อแคมเปญการตลาดเพื่อสร้างการรับรู้สินค้าเรา ตามคอนเซ็ปต์ใช้จระเข้ร่วมกัน ปกป้องทั้งบ้าน” คำกล่าวของ “ศุภพงษ์ เพชรสุทธิ์” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท จระเข้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด
5SD - โรดแมปก่อสร้างสีเขียว
พ.ศ.นี้การทำธุรกิจต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้สามารถเติบโตอย่างยั่งยืน ภารกิจของโลกทั้งใบตอนนี้ คือ การลดการปล่อยคาร์บอนในทุกกระบวนการผลิต เพื่อมุ่งสู่การเป็นองค์กรที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน ผ่านเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 5 ข้อ (5SD) ดังนี้
1. ลดการปล่อย CO2 : มุ่งลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในกระบวนการผลิตและการดำเนินงานทั้งหมด โดยจระเข้ได้ลดการปล่อยคาร์บอนได้ 11,118,806 กิโลกรัมคาร์บอน
2. ลดปริมาณขยะและของเสีย : จัดการขยะและของเสียอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการรีไซเคิลขยะให้เกิดประโยชน์ โดยจระเข้ได้จัดการขยะรีไซเคิลไปแล้ว 120,499 กิโลกรัม
3. ลดการใช้สารพิษ : ลดการใช้และการปล่อยสารเคมีที่เป็นอันตรายในกระบวนการผลิต โดยจระเข้ได้ลดฝุ่นไปแล้ว 2,522,217 กิโลกรัม ด้วยการปรับปรุงกระบวนการผลิต
4. เพิ่มสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม : พัฒนาและส่งเสริมผลิตภัณฑ์ที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยยอดขายสินค้ากลุ่ม Green Products คิดเป็น 62% จากยอดขายทั้งหมด
5. สนับสนุนกิจกรรมส่งเสริมคุณภาพชีวิต : สนับสนุนกิจกรรมที่ยกระดับคุณภาพชีวิต ครอบคลุมด้านการศึกษา สุขอนามัย และสิ่งแวดล้อม เดินหน้าทำงานร่วมกับชุมชนและองค์กร เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาสังคม โดยจระเข้ได้พัฒนาทักษะคนไปแล้วกว่า 12,274 คน
“ต่อจากนี้ ทุกผลิตภัณฑ์ ทุกกระบวนการผลิต ทุกการดำเนินงานในองค์กร และทุกโครงการ CSR ที่ริเริ่ม จะตั้งอยู่บนพื้นฐานของการคำนึงถึงสังคมและสิ่งแวดล้อมตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ ขับเคลื่อนสังคมตามแนวคิด เราอยู่ได้-โลกอยู่ดี-สังคมมีสุข”
ตอกย้ำด้วยคำมั่น “จระเข้ขอเป็นแบรนด์ไทยที่เติบโตได้อย่างมั่นคง พร้อมไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อม”
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ https://www.prachachat.net/property/news-1648472
