A comprehensive listing of building and house construction companies in Thailand.

ADVERTORIALS

    

เอสซีจี อัพเดต 3 เทรนด์บ้านมาแรงปี 2563



เอสซีจี อัพเดต 3 เทรนด์บ้านมาแรงปี 2563



‘เอสซีจี’ ในฐานะผู้นำนวัตกรรมวัสดุก่อสร้างครบวงจร ได้รวบรวม 3 เทรนด์บ้านมาแรงปี 2563 ที่จะมาตอบโจทย์การอยู่อาศัยในอนาคตระยะยาว เพราะ ‘บ้าน’ ไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัยแต่เป็นพื้นที่ในการใช้ชีวิต จึงควรสร้างหรือปรับเปลี่ยนพื้นที่ภายในบ้านให้สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงด้านการอยู่อาศัยของสมาชิกทุกคนในระยะยาว 3 เทรนด์ดังกล่าว ได้แก่ เทรนด์บ้านอีโค เทรนด์บ้านสำหรับทุกคนในครอบครัว และเทรนด์บ้านอัจฉริยะ

เทรนด์บ้านอีโค (Eco and Sustainable Living)
คนทั่วโลกต่างให้ความสำคัญกับเทรนด์ด้านสิ่งแวดล้อม พร้อมนำแนวคิดนี้มาใช้ในการปรับบ้านให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ประหยัดพลังงาน และมอบคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับสมาชิกภายในบ้าน โดยเทรนด์นี้เจ้าของบ้านสามารถนำเทคโนโลยีต่าง ๆ มาเสริมให้บ้านมีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ได้แก่

• บ้านพลังงานทางเลือก ติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อใช้พลังงานสะอาดแทนการใช้ไฟฟ้า ซึ่ง เอสซีจี สามารถติดตั้งโซลาร์รูฟได้เนียนไปกับหลังคาทุกสไตล์โดยไม่ลดทอนความสวยงามของบ้าน บ้านประหยัดพลังงานและลดมลพิษในอากาศ โดยติดตั้งนวัตกรรมระบบถ่ายเทอากาศ Active AIRflow™ System ที่ช่วยสร้างกลไกการถ่ายเทอากาศ และระบายความร้อนออกจากตัวบ้าน และโถงใต้หลังคา ซึ่งสามารถลดอุณหภูมิภายในบ้านได้ 2 - 5 องศา และกว่า 10 องศา ในโถงหลังคา หรือติดตั้งระบบปรับปรุงคุณภาพอากาศภายในห้อง หรือ Well AIR ช่วยลดปริมาณอากาศที่ไม่ดี และป้องกันมลภาวะต่าง ๆ ภายในห้อง หรือติดตั้งฉนวนกันความร้อน เพื่อช่วยสกัดกั้นความร้อนจากหลังคาเข้าสู่ตัวบ้าน และสะท้อนรังสีความร้อนได้ถึง 95% เป็นต้น

• บ้านสีเขียว เลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่มีส่วนประกอบของวัสดุเหลือใช้ ซึ่ง เอสซีจี มุ่งมั่นนำวัสดุเหลือใช้มาเป็นส่วนหนึ่งของวัตถุดิบในการผลิตสินค้า โดยพัฒนาสินค้าทุกรายการให้มีส่วนผสมของวัสดุรีไซเคิลเพิ่มขึ้น เพื่อใช้ทรัพยากรได้อย่างคุ้มค่า และเกิดประโยชน์สูงสุด อาทิ กระเบื้องปูพื้นที่มีส่วนประกอบเป็นเศษดินและเศษเซรามิก หลังคาไฟเบอร์ซีเมนต์ที่ใช้วัสดุรีไซเคิลจากเศษเถ้าลอยและหินฝุ่นแทนวัสดุจากธรรมชาติ เป็นต้น ซึ่งวัสดุก่อสร้างเหล่านี้ไม่เพียงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังคงมีมาตรฐานความปลอดภัยและเป็นมิตรกับผู้อยู่อาศัยด้วย

เทรนด์บ้านสำหรับทุกคนในครอบครัว (Universal Living)
เป็นเทรนด์ที่ตอบโจทย์แนวโน้มสังคมผู้สูงอายุ และการอยู่ร่วมกันของคนหลายเจนเนอเรชัน จึงเป็นบ้านที่มีดีไซน์ หรือการปรับพื้นที่ใช้สอยให้รองรับไลฟ์สไตล์ของคนหลากหลายวัย เช่น จัดสรรพื้นที่ส่วนตัวให้เหมาะกับสมาชิกภายในบ้าน โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็กและผู้สูงอายุ

เอสซีจี เอลเดอร์แคร์ โซลูชั่น (SCG Eldercare Solution) ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบที่อยู่อาศัยเพื่อผู้สูงอายุ จึงขอแนะนำการปรับพื้นที่บ้านให้เหมาะกับลักษณะทางกายภาพ และสมรรถภาพของผู้สูงอายุ ดังนี้ ปรับพื้นที่บ้านให้ราบเสมอกัน, ติดตั้ง DoCare Protect อุปกรณ์ Smart Home เพื่อการดูแลผู้สูงอายุที่อยู่บ้านตามลำพัง, ติดตั้งลิฟท์บันได, ติดราวทรงตัวในห้องน้ำ เป็นต้น

สำหรับบ้านที่มีเด็ก แนะนำให้สร้างสรรค์ห้องนอนให้เสริมจินตนาการ โดยใช้สีที่สดใส หรือตกแต่งด้วยวอลเปเปอร์ลวดลายที่ลูก ๆ ชื่นชอบ ใช้สุขภัณฑ์รุ่นที่ออกแบบมาสำหรับเด็ก เป็นต้น รวมถึงภายในบ้านควรปูพื้นด้วยไวนิลลดแรงกระแทก และใช้เฟอร์นิเจอร์แบบมุมมน เพื่อลดการชนกระแทก

สร้างพื้นที่ส่วนกลางเพื่อให้คนหลายเจนเนอเรชันอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข เช่น นำวัสดุตกแต่งผนังสำหรับดูดซับเสียง รุ่น Zandera ไปตกแต่งผนังห้องนั่งเล่น, ห้องโฮมเธียเตอร์ หรือห้องซ้อมดนตรีสำหรับลูก ๆ เพื่อลดเสียงก้องภายในห้อง และป้องกันไม่ให้เสียงทะลุไปรบกวนสมาชิกคนอื่น ๆ ภายในบ้าน หรือตกแต่งภูมิทัศน์รอบบ้านสำหรับไว้พักผ่อนหย่อนใจ หรือจัดปาร์ตี้นอกบ้าน โดยสร้างพื้นที่นั่งเล่นกลางสวน ใช้บล็อกปูพื้นทางเดินในสวน รวมถึงปลูกต้นไม้ และดอกไม้เพิ่มความสดชื่น ปรับพื้นที่การใช้งานให้คุ้มค่า หากบ้านมีพื้นที่ภายในที่จำกัด การปรับพื้นที่ให้สามารถใช้ได้หลากหลายฟังก์ชันจึงเป็นอีกหนึ่งแนวคิดที่ดี เช่น การปรับห้องครัว และห้องทานอาหารให้ใช้งานร่วมกัน โดยปรับเคาน์เตอร์ครัวออกแบบเป็นรูปทรงตัวยู เสริมด้วยเก้าอี้ทรงบาร์อีกด้านเพื่อใช้เป็นพื้นที่ทานข้าว หรือนั่งจิบกาแฟ

เทรนด์บ้านอัจฉริยะ (Smart Living) ปัจจุบันเริ่มมีการนำนวัตกรรม และเทคโนโลยีล้ำสมัยมาใช้เพื่อเพิ่มฟังก์ชันให้กับบ้าน ยกระดับการอยู่อาศัยภายในบ้านให้สะดวกสบาย และปลอดภัยยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ระบบสั่งการอัตโนมัติผ่านแอปพลิเคชัน ระบบสั่งการด้วยเสียง ระบบเปิดปิดไฟ และเครื่องใช้ไฟฟ้าอัตโนมัติ ระบบล็อคอัตโนมัติ กล้องตรวจจับ ความเคลื่อนไหว หรือหุ่นยนต์ต้อนรับ เป็นต้น ซึ่ง เอสซีจี ในฐานะผู้นำนวัตกรรมวัสดุก่อสร้าง ได้มีการพัฒนานวัตกรรมสินค้าสำหรับการอยู่อาศัย อาทิ ระบบโซลาร์รูฟ ระบบ Well AIR ระบบ DoCare Protect เป็นต้น ควบคู่กับการนำเทคโนโลยี IoT และ AI มาผสานเข้ากับระบบของสินค้าต่าง ๆ รวมถึงพัฒนาแพลตฟอร์ม ‘Smart Living Solution’ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่รวมนวัตกรรมสินค้าเพื่อการอยู่อาศัยของเอสซีจี และเชื่อมต่อระบบการทำงานไว้ในที่เดียว เพื่อยกระดับการแสดงผลการทำงานโดยรวมของบ้านผ่านแอปพลิเคชันแบบเรียลไทม์ เพิ่มความสะดวกสบายให้แก่เจ้าของบ้านยุคดิจิทัลได้เป็นอย่างดี


ขอบคุณที่มาจาก: ประชาชาติธุรกิจ www.prachachat.net/property/news-421611